ใบงานที่ 13
กระผมไม่ได้ไปทัศนศึกษาครับ เพราะงานที่โรงเรียนยุ่งมาก แต่ก็มีความรู้สึกเสียดายครับ เลยไม่สามารถสรุปงานส่งได้
ใบงานที่ 12
สรุปการเรียนรู้ การใช้ spss for window วันที่ 26 ธันวาคม 25521. เปิดโปรแกรม SPSS 11.5 For Window2. ไปที่ Variable view เพื่อกำหนดค่าตัวแปร และไปที่ Data view เพื่อใส่ข้อมูล โดย- Variable view สร้างรหัสและการกำหนดค่าตัวแปร เช่น ตัวแปร sex เพศ ให้ 1 แทน ชาย และ 2 แทน หญิง , ageอายุ 1 แทน 20- 29 ปี 2 แทน 30-39 ปี 3 แทน...,degree การศึกษา ให้ 1 แทน ปริญญาตรี 2 แทน ปริญญาโท 3 แทน....เป็นต้น- สร้างรหัสกำหนดค่าความพึงพอใจที่สอบถาม เช่น ความพึงพอใจต่อการให้บริการด้านวิชาการ แทนด้วย a ระดับความพึงพอใจ มากที่สุด แทนด้วย a1 มาก แทนด้วย a2 น้อยแทนด้วย a3 , ความพึงพอใจต่ออาคารสถานที่ แทนด้วย b ระดับความพึงพอใจ มากที่สุด แทนด้วย b1 มาก แทนด้วย b2 น้อยแทนด้วย b3 เป็ฯต้น- Data view นำแบบสอบถามมาลงคะแนนความถึ่(บันทึกข้อมูล)ให้ครบถ้วน- เมื่อบันทึกเสร็จแล้ว ไปที่ Transform เลือก compute...ไปหาค่าฉลี่ย ของข้อมูล 3. การวิเคราะห์ข้อมูล- คลิกไปที่ Analyze- คลิก Reports เมนูย่อย Olap Cubes ในช่อง Grouping Variable (s) : ใส่ตัวแปรจัดกลุ่ม (Norminal) ส่วนช่อง Summary Vaiable (s) ใส่ตัวแปรเชิงปริมาณ (Scale) : หลังจากนั้นคลิกไปที่ช่อง Statistics ก็จะปรากฏหน้าต่าง แล้วคลิกปุ่ม Continue และคลิก OK โปรแกรมประมวลผลแสดงหน้าต่าง Output ผลที่ได้จะเป็นไปตามตารางพื้นฐานต่าง ๆ ของตัวแปรตามที่เราเลือกเอาไว้4. การแจกแจงความถี่และสถิติพื้นฐาน- เปิดข้อมูลเดิมที่ทำเอกไว้ก่อนแล้ว- คลิกเมนูหลัก Analyze เมนูสำรอง Descriptive Statistic และเมนูย่อย Frequenciesจะปรากฏหน้าต่าง Frequencies หลังจากนั้นถ้าหากจะหาความถี่ตัวแปร อายุ ก็ให้คลิกที่คำว่าอายุ ในช่องซ้ายแล้วคลิกลูกศรตรงกลาง หลังจากนั้นก็ไปคลิกที่ปุ่ม Statistics ก็จะปรากฏหน้าต่าง Frequencies : Statistice เราก็สามารถที่จะเลือกสถิติที่ต้องการได้ โดยคลิกเครื่องหมาย ถูก ในสี่เหลี่ยมด้านหน้าสถิติที่ต้องการ แล้วคลิก Add หลังจากนั้นก็ใส่คำที่ต้องการหา แล้วคลิกปุ่ม Add อีกครั้ง ส่วนสถิติอื่น ๆ ก็สามารถจะเลือกคำนวณได้ตามความต้องการ เช่น Mean : แสดงค่าเฉลี่ย , Median : แสดงค่ามัธยฐาน,Mode : แสดงค่าฐานนิยม, Sum : แสดงค่าผลรวม, Range : แสดงค่าพิสัย, Minimum : แสดงค่าต่ำสุด,Maximum : แสดงค่าสูงสุด เป็นต้น เมื่อคลิกสถิติที่ต้องการแสดงผลแล้วก็คลิกปุ่ม Continue และถ้าหากต้องการสร้างกราฟให้ไปคลิก ที่หน้าต่าง Frequencies แล้วคลิกปุ่ม Chats ก็จะปรากฏหน้าต่าง requencies : Chart ออกมา เราก็สามารถที่จะดำเนินการขั้นต่อไปได้
ใบงานที่ 11
ความคิดเห็นต่ออาจารย์อภิชาติ และการเรียนการสอน ด้านบุคลิกภาพ : รูปร่างสง่าสมส่วน แต่งกายสุภาพ สะอาด ดูดี คล่องแคล่ว
ด้านอารมณ์ : สุขุม จริงจัง ด้านสังคม : เป็นที่เคารพรักของลูกศิษย์ เข้ากับลูกศิษย์ได้ดี ด้านการสอน : อาจารย์มีความตั้งใจในการให้ความรู้สูง และมีความคาดหวัง ต่อนักศึกษาสูง ทำให้นักศึกษากังวลกับงานในวิชาเรียน
ใบงานที่10
ประวัติของนายวันชัย แก้วประสมสถานที่เกิด อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ที่อยู่ปัจจุบัน 210หมู่ที่ 2 ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาง
จังหวัดนครศรีธรรมราช 80260สถานที่ทำงาน โรงเรียนเจริญมิตร อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราชการศึกษา -ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านคลองรอ อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช-ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนฉวางรัชดาภิเษก อำเภอฉวาง-ระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตร์บัณฑิต สถิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง2543การทำงาน
ครูโรงเรียนเจริญมิตร
ใบงานที่ 9คุณลักษณะของผู้บริหารแบบมืออาชีพในยุคปัจจุบัน
จากประสบการณ์ในการทำงานทางด้านการศึกษาและจากการศึกษาต่าง ๆ ที่ผ่านมา พบว่าผู้บริหารที่ดี(มืออาชีพ)นั้น ควรจะมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในแต่ละด้าน ได้แก่1. การมีภาวะผู้นำ ซึ่งจะต้องมีองค์ประกอบของความรู้ความเข้าใจในการบริหารงาน รู้จักตัดสินใจ สามารถนำเอาวิธีการและกลยุทธในการแก้ไขปัญหามาใช้ในการปฎิบัติงานในงานได้ และเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำที่กำหนดทิศทางขององค์กรและเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างพลังในการทำงานเป็นทีม และการมีส่วนร่วมของเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนเป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นต้น2. เป็นบุคคลที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีและมีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ที่ได้รับหรืออยู่ในขอบข่ายของภารกิจที่รับผิดชอบ3. มีทักษะในการสื่อสารที่เป็นเลิศ ที่สามารถสื่อสารทั้งทางตรง ทางอ้อม ที่ทำให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้ที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาสามารถเข้าใจง่าย และเข้าถึงในสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร4. เป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ มีความคิดและมุมมองที่กว้าง และเป็นผู้ที่มองการณ์ไกล5. เป็นผู้ที่ยอมรับและเป็นผู้สร้างกระบวนการเรียนรู้ที่จะนำองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้หลักการบริหารที่ผู้บริหารผู้บริหารมืออาชีพต้องมีเพื่อจะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จนั้น ผู้บริหารควรมีหลักการในการทำงานที่มีความชัดเจน ในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ 1. การกำหนดนโยบายบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมที่มีความคมชัด ซึ่งสามารถที่จะนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมที่ต่อเนื่องและบังเกิดผล 2. มีความรอบรู้และสามารถสั่งการหรือมอบหมายงานรวมทั้งการสื่อสารในองค์กร ที่ทำให้เกิดการยอมรับในกลุ่มเพื่อนร่วมงานและผู้ที่อยู่ใต้การบังคับบัญชา ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่าย พร้อมที่จะรับนโยบายหรือรับคำสั่งไปใช้ในทางปฏิบัติได้ 3. ผู้บริหารจะต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ที่มีความสามารถบริหารจัดการในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในองค์กรให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นระบบและมีกระบวนการ โดยผ่านขั้นตอนของการเรียนรู้ร่วมกันในหมู่คณะ เพื่อนร่วมงาน หรือ ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ส่วนรวมขององค์กร ซึ่งจะเป็นพลังขับเคลื่อนไปสู่การสร้างการยอมรับของคนในองค์กรนอกจากนี้ผู้บริหารจะต้องนำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการบริหารงาน เพื่อเป็นหลักในการทำงานที่สร้างบรรทัดฐานที่ดีขององค์กร และนำสามารถนำองค์กรไปสู่เป้าหมายที่พึงประสงค์ โดยหลักธรรมาภิบาลประกอบด้วยหลักการ 6 ประการ ดังนี้ 1. หลักนิติธรรม หมายถึง การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ โดยถือว่าเป็นการปกครองภายใต้กฎหมายมิใช่ตามอำเภอใจ หรืออำนาจของ ตัวบุคคล จะต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม และความยุติธรรม รวมทั้งมีความรัดกุมและ รวดเร็วด้วย2. หลักคุณธรรม หมายถึง การยึดมั่นในความถูกต้อง ดีงาม การส่งเสริม ให้บุคลากรพัฒนาตนเอง ไปพร้อมกัน เพื่อให้บุคลากรมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน มีระเบียบ วินัย ประกอบอาชีพสุจริต เป็นนิสัย ประจำชาติ3. หลักความโปร่งใส หมายถึง ความโปร่งใส พอเทียบได้ว่ามีความหมาย ตรงข้าม หรือเกือบตรงข้าม กับการทุจริต คอร์รัปชั่น โดยที่เรื่องทุจริต คอร์รัปชั่น ให้มี ความหมายในเชิงลบ และความน่าสะพรึงกลัวแฝงอยู่ ความโปร่งใสเป็นคำศัพท์ที่ให้แง่มุมในเชิงบวก และให้ความสนใจในเชิงสงบสุข ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้สะดวกและเข้าใจง่าย และมีกระบวนการให้ประชาชนตรวจสอบความถูกต้องอย่างชัดเจน4. หลักการมีส่วนร่วม หมายถึง การให้โอกาสให้บุคลากรหรือผู้มี ส่วนเกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมทางการ บริหารจัดการเกี่ยวกับการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ เช่น เป็นคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และหรือ คณะทำงานโดยให้ข้อมูล ความคิดเห็น แนะนำ ปรึกษา ร่วมวางแผนและร่วมปฏิบัติ5. หลักความรับผิดชอบ หมายถึง การตระหนักในสิทธิและหน้าที่ ความสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจปัญหาการบริหารจัดการ การกระตือรือร้นในการแก้ปัญหา และเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง รวมทั้งความกล้าที่จะยอมรับผลดีและผลเสียจากกระทำของตนเอง6. หลักความคุ้มค่า หมายถึง การบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีจำกัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม โดยรณรงค์ให้บุคลากรมีความประหยัด ใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างคุ้มค่า และรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน ในขณะเดียวกัน นักบริหารที่ดี ควรมีภาวการณ์เป็นผู้ที่สามารถจัดการการเปลี่ยนแปลง และความขัดแย้ง ในองค์กรได้โดยก่อให้เกิดการยอมรับอย่างสร้างสรรค์ ไม่ให้เกิดความรู้สึกที่สูญเสียเป็นการแก้ปัญหาแบบชนะ-ชนะ (Win - Win Solution) ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้บุคลากรในองค์กรเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ องค์กรแห่งการเรียนรู้และพัฒนา (Learning Organization) อยู่อย่างต่อเนื่อง
ใ
ใบงานที่ 8
1.สถิติ (Statistics) หมายถึงตัวเลขที่ใช้บรรยายเหตุการณ์หรือข้อเท็จจริง (facts) ของเรื่องต่างๆ ที่เราต้องการศึกษา เช่น สถิติจำนวนผู้ป่วย สถิติจำนวนคนเกิด สถิติจำนวนคนตาย เป็นต้น2.ค่าเฉลี่ย หรือค่ามัชฌิมเลขคณิต (Arithmetic mean) คือค่าเฉลี่ยของข้อมูลทั้งหมด ความหมายเป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย3.ค่ามัธยฐาน (Median) คือค่าของข้อมูลที่จุดกึ่งกลางของการกระจายของข้อมูลโดย 50% ของข้อมูลมี ค่าสูงกว่าค่า มัธยฐาน และ 50% มีค่าต่ำกว่าค่ามัธยฐาน และมักใช้ในกรณีที่ การกระจายของข้อมูลมีลักษณะไม่เท่ากันทั้งสองข้าง (Asymmetry) หรือมีลักษณะเบ้ไปทางซ้ายหรือทางขวาเป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย4.ค่าฐานนิยม (Mode) คือค่าของข้อมูลที่มีความถี่มากที่สุดในข้อมูลของชุดนั้นๆ ซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่งค่าหรือไม่มีเลยก็ได้ เป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย5.ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เป็นการวัดการกระจายของข้อมูลว่าจะเบี่ยงเบนไปจากค่าเฉลี่ยมากน้อยเท่าใด เป็นสถิติเชิงพรรณนา/บรรยาย6. ประชากร (Population) หมายถึง กลุ่มสมาชิกทั้งหมดที่ต้องการศึกษา อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ได้ ใช้สัญลักษณ์ “N” แทนจำนวนประชากร7. กลุ่มตัวอย่าง (Sample) หมายถึง กลุ่มสมาชิกที่ถูกเลือกมาจากประชากรด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพื่อเป็นตัวแทนในการศึกษาและเก็บข้อมูล ใช้สัญลักษณ์ “n” แทนสมาชิกของกลุ่มตัวอย่างประชากรและกลุ่มตัวอย่างต่างกัน เพราะกลุ่มตัวอย่างเป็นเพียงสมาชิกส่วนหนึ่งของประชากรที่ถูกคัดเลือกมาใช้ในการศึกษาด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง ตัวอย่าง เช่น ถ้าครุผู้สอนต้องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ม.2 ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ซึ่งนักเรียนมีจำนวนมาก ครูผู้สอนในฐานะนักวิจัยไม่สามารถศึกษาจากประชากร(นักเรียนชั้น ม.2)ทั้งหมดได้จึ้งคัดเลือกนักเรียนชั้น ม.2 มาบางส่วนโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างโดยอาศัยหลักความน่าจะเป็น โดยใช้ตารางเลขสุ่ม หรือคำนวนด้วยสูตรอื่นๆ ผลที่ได้จากการศึกษาจะอ้างอิงไปสู่ประชากรทั้งหมดได้8. มาตรนามบัญญัติ (Nominal Scale)-เป็นมาตรวัดที่หยาบที่สุด จัดข้อมูลออกเป็นกลุ่มๆ แยกตามประเภทหรือชนิด-สถิติ : ความถี่ ร้อยละ ฐานนิยม หรือใช้สถิติแบบนอนพาราเมตริก-ตัวแปร : เป็นตัวแปรที่ไม่มีขนาด ไม่มีความเท่ากันของช่วง และไม่มีศูนย์สมบูรณ์ มาตรเรียงลำดับ (Ordinal Scale)-เป็นมาตรวัดที่ใช้กับข้อมูลที่สามารถจัดเรียงอันดับความสำคัญหรือสามารถเปรียบเทียบกันได้-สถิติ : ฐานนิยม มัธยฐาน พิสัย เปอร์เซนต์ไทล์ และสถิติแบบนอนพาราเมตริก-ตัวแปร : เป็นตัวแปรที่มีการจัดลำดับข้อมูลจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมากได้ แต่ไม่ได้บอกถึงปริมาณแต่ละอันดับว่ามากน้อยเท่าใด ไม่มีความเท่ากันของช่วงคะแนน และไม่มีศูนย์สมบูรณ์มาตรอันตรภาค (Interval Scale)-เป็นมาตรวัดที่สามารถบอกได้ทั้งทิศทางและขนาดของ ความแตกต่างของข้อมูล มาตรวัดนี้ไม่มีศูนย์ที่แท้จริง (absolute zero)-สถิติ : ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน-ตัวแปร : เป็นตัวแปรที่สามารถบอกระยะห่างของตัวเลข 2 ตัว ว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยเท่าใด มีเกณฑ์อยู่กับสิ่งที่เรียกว่าศูนย์สมมติ มาตรอัตราส่วน (Ratio Scale)-เป็นมาตรวัดที่มีลักษณะสมบูรณ์ทุกอย่าง ดีกว่ามาตรวัดอันตรภาคตรงที่มาตรการวัดนี้มีศูนย์ที่แท้จริง-สถิติ : สถิติที่ใช้กับการวัดในระดับนี้ใช้ได้ทุกวิธีที่มีอยู่-ตัวแปร : เป็นตัวแปรที่มีระดับการวัดเหมือนมาตราอันตรภาค และมีศูนย์สมบูรณ์ ข้อมูลที่เป็นอัตราส่วนสามารถนำมาบวก ลบ คูณ หาร ได้ และสามารถใช้ได้กับสถิติทุกประเภท9.ตัวแปร หมายถึง สิ่งที่เปลี่ยนค่าไปได้หลายค่า เป็นลักษณะคุณภาพ คุณสมบัติของบุคคล สิ่งของ หรือสิ่งที่สนใจจะนำมาศึกษาที่สามารถนับได้ วัดได้ หรือหมายถึง สิ่งที่แปรเปลี่ยนไปตามระยะเวลา แปรเปลี่ยนได้หลายค่า หรือมากกว่า 1 ลักษณะ เช่นเชื้อชาติ แปรค่าได้เป็น ไทย , จีน , ….ตัวแปรต้น หรือตัวแปรอิสระ (independent variable) เป็นตัวแปรเหตุที่ทำให้ผลตามมา หรือทำให้สิ่งที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วยเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะ หรือ แปรสภาพไป ตัวแปรต้นจะมีลักษณะ เป็นตัวแปรเหตุ เป็นตัวแปรที่มาก่อน เป็นตัวแปรที่จัดกระทำในการทดลอง มีลักษณะเป็นตัวทำนาย เป็นตัวกระตุ้นหรือ มีความคงทน ถาวรตัวแปรตาม (dependent variable) เป็นตัวแปรที่มีผลมาจากตัวแปรต้น ซึ่งตัวแปรตามจะมีลักษณะ เป็นตัวแปรที่เป็นผลเกิดขึ้นภายหลัง เกิดขึ้นเองไม่สามารถจัดกระทำได้ในการทดลอง เป็นตัวถูกทำนาย เป็นตัวตอบสนอง เปลี่ยนแปลงได้ง่ายตัวอย่าง เช่น การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้น ม.2 โดยใช้การสอนตามคู่มือครูกับการสอนโดยการใช้ชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษาตัวแปรต้น คือ การสอนตามคู่มือครูกับการสอนโดยการใช้ชุดกิจกรรมพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษาตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 10.สมมติฐาน คือ การคาดการณ์ผลการวิจัยไว้ล่วงหน้าโดยมีทฤษฎีหรือข้อค้นพบจากผลงานวิจัยที่ผ่านมามารองรับ เป็นคำตอบที่คาดการณ์ไว้ก่อนที่จะดำเนินการวิจัยจริง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ - สมมติฐานการวิจัย เป็นข้อความที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ที่ผู้วิจัยคาดว่าจะเกิดขึ้นมักจะเขียนในเชิงความเรียงธรรม- สมมติฐานทางสถิติ เป็นการนำข้อความจากสมมติฐานการวิจัยมาเขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ทางสถิติ11. T-test เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ย เหมาะสำหรับถ้าตัวแปรเป็นตัวแปรเชิงปริมาณที่สามารถวัดค่าได้ F – test (หรือ ANOVA) เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ยตั้งแต่สองกลุ่มขึ้นไปT-test และ F – test เหมือนกันคือเป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ย ต่างกันคือ F – test เป็นการทดสอบนัยสำคัญของค่าเฉลี่ยของข้อมูลตั้งแต่ 2 กลุ่มขึ้นไป
ใบงานที่ 7
(1) การใส่ปฏิทิน(2) การใส่นาฬิกา(3) การทำสไสด์(4) การปรับแต่งสีใน Webboard(5) การใส่เพลงลงใน Webboardสรุปแต่ละประเด็นย่อ ๆ ในการเรียนรู้ การตกแต่งบล๊อก ด้วยปฏิทิน นาฬิกา สไลด์รูปต่างๆ เปลี่ยนสีในรูปแบบ และเพลงนั้น จำเป็นจะต้องใช้โค้ด(ภาษา HTML) ซึ่งเป็นโค้ดที่ต้องเพิ่มใน Gadget ซึ่งเมนูการเพิ่มจะอยู่ที่ แผงควบคุม ---> รูปแบบ ---> เพิ่ม Gadget ---> เพิ่มจาวา/HTML ---> วางโค้ดของปฎิทิน/นาฬิกา/เพลงที่เราได้คัดลอกมาจากโค้ดที่เราค้นหาโดยใช้ Google ---> แล้วสั่งบันทึก ซึ่งจะกลับมาที่หน้ารูปแบบ--->สั่งบันทึกอีกครั้ง--->จะขึ้นข้อความว่า "ได้บันทึกการเปลี่ยนแปลงแล้ว ดูบล๊อก" ---> ซึ่งสามารถดูบล๊อกได้ว่าเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่สำหรับการค้นหาโค้ด โดยใช้ Google นั้น เมื่อเข้าเว็บ Google แล้วใช้คำค้นหา เช่น โค้ดเพลง/โค้ดปฏิทินแต่งบล๊อก/โค้ดนาฬิกา / โค้ดแต่งบล๊อก /หรือระบุเพลงที่ต้องการ โค้ดเพลง(ชื่อเพลง)เมื่อได้หน้าเว็บGoogle ที่ขึ้นผลการค้นหาแล้ว เลือกเปิดลิงค์ต่าง ๆ ก็จะได้หน้าเว็บบางเว็บอาจต้องดาวน์โหลดโค้ด บางเว็บก็ copy โค้ดได้เลย เมื่อได้โค้ดแล้ว select code แล้วนำไปวางใน Gadget ที่ได้สั่งเพิ่ม HTML/จาวาสคริปต์
ใบงานที่ 6 ประโยชน์ของใช้google
ประโยชน์ของ Googleประโยชน์ของ Google ในการบริการ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ 3 กลุ่ม โดยแบ่งออกตามความสามารถในการทำงานในด้านต่างๆ ดังนี้1. บริการในกลุ่มดัชนีค้นหา(Search Engines) Google Web Search Features ประกอบด้วยบริการค้นหาต่อไปนี้ Book Search :· บริการค้นหาหนังสือแบบออนไลน์ ซึ่งเป็นบริการใหม่ของ Google ที่เพิ่งเปิดให้บริการกับแฟนหนังสือโดยเฉพาะ Cached Links· :บริการช่วยจับประเด็นหรือหัวเรื่องสำคัญของเว็บไซต์ที่คุณต้องการจะค้นหา · Calculator : เครื่องคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่คุณสามารถตั้งตัวเลข โดยคีย์ลงในช่องค้นหาของ Google แล้วคลิ้กหาคำตอบที่ต้องการได้เลย · Currency Conversion : บริการแปลงหน่วยมาตราเงินสำหรับระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา · Definitions : หมวดคำศัพท์ที่คุณสามารถค้นหาความหมายของคำศัพท์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย · File Types : ดัชนีค้นหาสินค้าออนไลน์ทั่วทุกมุมโลก Groups :· ถ้าหากว่าคุณอยากรู้ข้อมูลข่าวสารที่มีคนโพสต์กันบนเว็บไซต์ สามารถค้นหาได้จากบริการนี้ I ‘m Feeling Lucky :· ปุ่มบริการดัชนีค้นหาที่ช่วยให้ค้นหาเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว และตรงประเด็น โดยข้ามลิงก์ของเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ถูกตัดออกไป Images :· ระบบดัชนีค้นหารูปภาพที่คลิกได้ง่าย และเร็วทันใจ Local Search :· บริการค้นหาธุรกิจและบริการต่าง ๆ ที่เปิดในสหรัฐ อังกฤษ และแคนาดา · Movie : คุณสามารถเข้าไปดูรีวิวภาพยนตร์หรือว่าตารางโปรแกรมฉายแบบเรียลไทม์ได้จากฟีเจอร์นี้ · Music Search : ดัชนีค้นหาเพลงหรือว่าดนตรีที่มีให้บริการฟังเพลงออนไลน์หรือว่าดาวน์โหลดเพลงจากทั่วโลก News Headlines :· บริการที่ทำให้คุณสารารถรู้ข้อมูลข่าวสารทันในที่ส่งมาจากรอบโลกแบบเรียลไทม์ · PhoneBook : บริการค้นหาเบอร์โทรศัพท์และเลขที่บนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา Q·&A : บริการใหม่ที่คุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับ Google บริการนี้ตอบปัญหาให้คุณได้ทุกเรื่อง Similar Pages :· บริการแสดงหน้าเว็บเพจที่แสดงผลในหน้าเว็บที่เกี่ยวข้อง Site Search :· กำหนดขอบเขตของการค้นหาเว็บไซต์ให้แคบลง Spell Checker :· เครื่องมือช่วยในการสะกดคำ Stock Quotes :· ดัชนีค้นหาสำหรับราคาหุ้นแบบเรียลไทม์ Travel Information :· บริการตรวจสอบสายการบินในสหรัฐ รวมถึงรายงานสภาพอากาศของสนามบิน · Weather : บริการตรวจสอบสภาพอากาศและการพยากรณ์อากาศในทุกรัฐของสหรัฐ Web· Page Translation : บริการแปลหน้าเอกสารภาษาอังกฤษเป็นภาษาอื่น ๆ2. บริการในกลุ่ม Google Services Alerts :· Answer :·บริการแจ้งเตือนข่าวสารและผลการค้นหาผ่านอีเมล์แบบออนไลน์ บริการตอบคำถามให้กับคุณได้ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ โดยนักวิจัยชื่อดังกว่า 500 คน Blog Search : บริการค้นหาหัวข้อเรื่องที่เป็น Blog· Catalogs :·ในประเด็นที่คุณสนใจ บริการค้นหารายการสินค้าที่คุณสนใจและต้องการจะสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์ · Directory : บริการค้นหาสาระสำคัญต่าง ๆ ที่อยู่บนเว็บไซต์ Labs :· บริการใหม่ ๆ ของ Google ที่คุณสามารถเข้าไปทดสอบใช้งานได้ฟรี ก่อนที่จะออกมาเป็นชุดเต็มของโปรแกรม Mobile : บริการหลักของ Google· ที่สามารถนำไปใช้ได้กับเครื่องโทรศัพท์มือถือ เช่น บริการดัชนีค้นหาเอกสาร รูปภาพ หรือส่ง SMS News : บริการรายงานข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ· จากทั่วทุกมุมโลกที่มีให้คุณได้อ่านก่อนใคร
Scholar :· บริการค้นหาเอกสารงานวิจัยใหม่ ๆ รวมทั้งบทคัดย่อจากห้องสมุดใหญ่ ๆ มากมาย · Special Searches : บริการค้นหาประเด็นสาธารณะในส่วนที่เป็นองค์กร หรือว่าสถาบันที่ไม่หวังผลกำไรต่างๆ รวมถึงบริการค้นหาเว็บไซต์ของสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีรายละเอียดในเรื่องของหลักสูตรการสอนและระเบียบวิธีการเข้าศึกษาต่อทั้งในระดับ
โรงเรียนและมหาวิทยาลัย · Video : บริการค้นหารายการทีวีทางโทรทัศน์ เกมโชว์ มิวสิควิดีโอ ที่คุณสามารถเช่าชั่วโมงมาดูกันแบบออนไลน์ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณ3. บริการในกลุ่ม Google Tools Blogger :· เว็บไซต์ที่มีเครื่องมือสำหรับสร้าง Blogger ของคุณเอง Code :· เครื่องมือสำหรับดาวน์โหลด APls และ Source code Desktop :· เครื่องมือสำหรับช่วยค้นหาไฟล์และข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ · Earth : เครื่องมือที่ทำให้คุณสามารถค้นหาแผนที่โลกจากดาวเทียม · Gmail : บริการอีเมล์รุ่นทดสอบของ Google ที่มีความจุกว่า 2.6 กิกะไบต์ · ·Pack : ชุดเครื่องมือรวมฮิตของ Google รวมถึงบราวเซอร์สุดเก่ง Firetox Picasa : เครื่องมือสำหรับการบริหารและจัดการรูปภาพทั้งหมดที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์ · Local for Mobile : เครื่องมือสำหรับค้นหาแผนที่ของสถานที่ต่าง ๆ บนโทรศัพท์มือถือ Talk : เครื่องมือที่ทำให้คุณสามารถพูดคุย ส่งอีเมล์· กับเพื่อนของคุณแบบเรียลไทม์ออนไลน์ Toobar :· กล่องเครื่องมือที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลได้โดยตรง โดยไม่ต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Google Translate :· เครื่องมือที่ทำให้คุณสามารถดูเว็บไซต์ได้หลาย ๆ ภาษา Labs :· กลุ่มของชุดเครื่องมือใหม่ ๆ ของ Google ที่คุณสามารถเข้าไปทดลองดาวน์โหลดได้ฟรี ที่มา:http://learners.in.th/blog/meaw-3/116386เพียงเข้า www.google.comGoogle คิดเลขได้ เช่น 25+36= แล้วกด Enter (ได้ทั้ง + - * (คู ณ) / (หาร), )Google คิดเลขยกกำลังได้ เช่น 2^3 เช่นเราอยากรู้ว่า 2 กำลัง 3 ได้เท่ากับเท่าไหร่ พิมพ์ 2 ตามด้วย "^" แล้วก็ 3Google แปลภาษาได้ เพียงแค่ กด "แปลภาษา" ด้านบนเว็บ หรือพิมพ์ว่า google translateGoogle maps อันนี้ เป็น แผนที่ประเทศไทย (มีทั้ง ไทย และ ประเทศอื่นๆ ค่ะ)Google Gmail หรือ Google Mail เป็นบริการอีเมลล์ฟรีและมีขนาดพื้นที่เก็บเมลล์ใหญ่จุใจ ที่สำคัญ พี่Google ให้ใช้ฟรีซะด้วยสิ<< มีเป็นบางอันGoogle Search ได้หลายๆอย่าง หรือ จะ บอก ว่า ทุกอย่าง ก็ได้Google ค้นหาภาพได้เยอะมากที่สุดGoogle การหาแบบเฉพาะเจาะจง 55+ โดยการใช้ " " เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาเกี่ยวกับโรงเรียนของเรา โรงเรียน"เลยพิทย์" เมื่อใช้เครื่องหมาย " " เราก็จะเจอแต่โรงเรียนนนั้น
Google Earth Enterprise - ภาพรวมสำรวจข้อมูลด้านภูมิศาสตร์ด้วยประสิทธิภาพการทำงานของ Google Earth Enterprise ซึ่งมีการแสดงผลภาพโลกเป็นแบบ 3D ที่จะรวม จัดการ และเผยแพร่ข้อมูลตำแหน่งองค์กรของคุณ Google Earth Enterprise จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Google Earth ภายในองค์กร รวมข้อมูลขององค์กรด้วยข้อมูล Google Earth ที่ส่งมาเป็น ASP หรือ ให้พื้นที่ชุดข้อมูลที่สมบูรณ์แบบของคุณเอง ในขณะนี้ ด้วยการสนับสนุนการเข้าถึงที่ใช้เบราว์เซอร์แบบ 2D โดยใช้ Google Maps API ข้อมูลพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีประโยชน์ของคุณจะถูกรวมไว้ในแอปพลิเคชันที่ใช้เว็บหรือผู้ใช้ทุกรายสามารถดูข้อมูลนี้ได้ ไม่ว่าซอฟต์แวร์โปรแกรมของผู้ใช้จะเป็นอย่างไรองค์ประกอบโซลูชันของ Google Earth Enterprise ประกอบไปด้วยองค์ประกอบสามสิ่งต่อไปนี้:Google Earth Fusion มีไว้เพื่อเก็บ สร้างรูปแบบ และจัดการข้อมูลลงในโลกที่ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์ หรือแผนที่ที่สามารถเรียกดูได้แบบ 2DGoogle Earth Server มีไว้เพื่อเก็บและส่งข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ของผู้ใช้โปรแกรม Google Earth Enterprise หรือมุมมองแผนที่แบบ 2D ที่ใช้เบราว์เซอร์ มีไว้สำหรับดู พิมพ์ ค้นหา และเขียนข้อมูลคุณลักษณะใหม่การใช้งานมุมมองแผนที่แบบ 2D ที่ใช้เบราว์เซอร์ของ Google Earth Enterprise โดยใช้สถาปัตยกรรม AJAX ของ Google Maps APIกรอบงานการค้นหาที่ปรับปรุงใหม่ทำให้สามารถใช้งานบริการค้นหาต่างๆ มากมายที่ผสานรวมไว้ได้ โดยผ่านปลั๊กอิน Java รวมถึง Google Search Applianceการจัดการส่ง KML- ซึ่งรวมถึงภาพที่กำหนดพื้นที่ Google SketchUp อาคารแบบ 3D และเลเยอร์ข้อมูลแบบไดนามิกสร้าง จัดเก็บ และให้โลกที่หลากหลายแก่ผู้ใช้ของคุณความท้าทายขององค์กรการลงทุนครั้งใหญ่ในการจัดหาและเก็บข้อมูลพิกัดพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีเพียงผู้ดูแลด้านเทคนิคไม่กี่รายเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ในโซลูชันที่ง่ายและรวดเร็วจัดการและแจกจ่ายข้อมูลทางภูมิศาสตร์ขององค์กรโซลูชันเทคโนโลยีของ Google Earth ได้เพิ่มค่าให้กับการลงทุนด้านพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ GIS และ LBS ในปัจจุบันขององค์กรของคุณ ด้วยตัวเลือกที่มีหลายรูปแบบ การค้นหาจากลักษณะเฉพาะ ตัวเลือกการให้บริการพื้นที่จำนวนมาก รวมถึงการใช้โปรแกรม Google Earth และส่วนติดต่อ Google Maps ที่แสนสะดวก โซลูชัน Google Earth Enterprise ผสานรวมและทำงานกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ภูมิศาสตร์ GIS และ LBS และทำให้รอบการทำงานของคุณสมบูรณ์ ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลนี้แก่ผู้ใช้ในระบบที่ทำงานอย่างรวดเร็วและใช้งานง่าย เราขอแนะนำ Google Earth Enterprise Pro ซึ่งเป็นโซลูชันสำหรับองค์กรแบบเต็มรูปแบบสำหรับการเขียนและให้บริการฐานข้อมูลเกี่ยวกับโลกแบบสแตนด์อะโลน ที่รวมข้อมูลรูปภาพ ภูมิประเทศ เวกเตอร์ และ KML นอกจากนี้ เราขอแนะนำ Google Earth Enterprise LT ซึ่งเป็นโซลูชันที่ใช้เวกเตอร์และ KML ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลในรูปแบบที่หลากหลายและให้บริการข้อมูลร่วมกับฐานข้อมูลสาธารณะของ Google Earth
สรุปการเรียน ครั้งที่ 4 วันที่ 28 พ.ย. 52
การค้นหาข้อมูล โดยเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต ได้แก่ Internet Explorer สามารถเข้าไปเพื่อการค้นหาข้อมูลต่าง ๆวิธีการค้นหาข้อมูลโดยใช้ http://www.google.com/ มีให้ค้นหาได้หลายรูปแบบ เช่นรูปภาพ แผนที่ แปลภาษา กูรู บล็อก Gmail เป็นต้น ดังน้นการใช้การค้นหาจะทำให้เราได้ข้อมูลตามที่ต้องการได้ไม่จำกัดWorld Wide Web คืออะไร- มีชื่อเรียกหลายแบบ ได้แก่ WWW, W3 หรือ Web- เป็นระบบสืบค้นข้อมูลข่าวสารในอินเทอร์เน็ต ที่นิยมมากที่สุด- ข้อมูลจะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่มากมาย ผู้ต้องการใช้สามารถเข้าไปสืบค้นดู- ข้อมูลในเวิลด์ไวด์เว็บ จะอยู่ในแบบมัลติมีเดีย ที่มีทั้งตัวอักษร รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีโอ โปรแกรม Internet Explorer-Internet Explorer เป็น Web browser ของบริษัท Microsoft พัฒนามาจาก NCSA Mosaic เช่นเดียวกับ Netscape Navigator- มีประสิทธิภาพสูง ใช้ง่าย มีฟังก์ชันการทำงานครบ คล้ายกับโปรแกรม Netscape Navigator- เป็นโปรแกรมที่จัดให้มาพร้อมกับโปรแกรม Windows- เป็น Web browser ที่ได้รับความนิยมสูงสุดการเปิด Web site ที่ต้องการการไปยังเว็บที่ต้องการ ทำได้หลายวิธี- คลิกที่ช่อง Address พิมพ์ URL address ของเว็บไซต์ที่ต้องการติดต่อ แล้วกด Enter- IE จัดเก็บ address ที่เคยติดต่อหลังสุด 15 แห่งไว้ เราสามารถเรียกมาใช้ใหม่ได้จากการคลิกปุ่มสามเหลี่ยมทางขวาของช่อง Address- จากเมนู File เลือกคำสั่ง Open พิมพ์ URL address ของเว็บไซต์ที่ต้องการติดต่อ แล้วกด Enter หรือ คลิกปุ่ม OpenSearch Engine- Search Engine เป็นโปรแกรมช่วยค้นข้อมูลบน WWWโดยผู้ใช้กรอกคำ วลี หรือประโยคที่เราต้องการค้น (Keyword)- มีผู้จัดสร้างเว็บไซต์ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ ช่วยค้นสิ่งที่ต้องการได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว- ใน search engine จะมีโปรแกรมที่เรียกว่า crawlers หรือ robots หรือ spider ทำหน้าที่รวบรวม URL ของ เว็บเพจบน อินเทอร์เน็ต มาเก็บไว้ในฐานข้อมูลของตน เมื่อพบเว็บเพจใหม่ ที่ยังไม่มีโดยอัตโนมัติ- ควรใช้ search engine หลายโปรแกรมร่วมกัน เนื่องจากแต่ละโปรแกรมมีวิธีสืบค้นข้อมูลต่างกัน การสืบค้นข้อมูลในเครือข่ายเวิลด์ไวด์เว็บ- ข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้อาจเป็น แฟ้มรูปภาพ แฟ้มภาพเคลื่อนไหว แฟ้มข้อมูลเสียง แฟ้มข้อมูลเอกสารประเภทต่างๆ ได้แก่ เอกสาร HTML เอกสาร Word เอกสาร pdf หรือ แฟ้มข้อมูลประเภทอื่นๆ- เมื่อผู้ใช้ต้องการค้นข้อมูลเรื่องใด ก็เพียงแต่สร้างการเชื่อมต่อไปยังเว็บของผู้ให้บริการสืบค้นข้อมูล (Search Engine) และพิมพ์คําสําคัญ (Keyword) ที่ต้องการใช้ในการค้นหา- โปรแกรมสืบค้นจะทําการตรวจสอบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่และรายงานผลเป็น URL ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งตัวอย่างข้อความของเอกสารเว็บที่อยู่ใกล้กับคําสําคัญนั้น
วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)